กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1066
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC | ค่า | ภาษา |
---|---|---|
dc.contributor.author | วรพจน์ ทองตะกุก | en_US |
dc.contributor.author | อัคคกร ไชยพงษ์ | en_US |
dc.date.accessioned | 2024-05-01T11:06:22Z | - |
dc.date.available | 2024-05-01T11:06:22Z | - |
dc.date.issued | 2567-04-22 | - |
dc.identifier.citation | บทความ, การค้นคว้าอิสระนิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานิติศาสตร์ | en_US |
dc.identifier.uri | http://ir.sru.ac.th/handle/123456789/1066 | - |
dc.description | การค้นคว้าอิสระนิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี | en_US |
dc.description.abstract | การศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) สภาพปัญหาและแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับการยึดอายัดทรัพย์สิน ตามกฎหมายฟอกเงิน (2) กฎหมายของประเทศไทยและกฎหมายต่างประเทศที่เกี่ยวกับการยึดอายัดทรัพย์สิน ตามกฎหมายฟอกเงิน (3) แสวงหาแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรการกฎหมายในการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน ตามกฎหมายฟอกเงิน ด้วยวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพในรูปแบบพรรณนาความ ผลการศึกษาพบว่า มาตรการกฎหมายในการยึดอายัดทรัพย์สินตามกฎหมายฟอกเงิน มาตรา 48 วรรคหนึ่ง เป็นการดำเนินการที่ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชนว่าด้วย สิทธิในทรัพย์สินของบุคคล เนื่องจากกฎหมายอาศัยแต่เพียง “เหตุอันควรเชื่อ” โดยไม่ต้องอาศัยพยานหลักฐาน ตามสมควรมาประกอบการพิจารณาแต่อย่างใด อันแตกต่างไปจากความคุ้มครองสิทธิโดยรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 1787 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 4 ที่กำหนดหลักประกันสิทธิว่ารัฐจะไม่สามารถยึดทรัพย์สินโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ กล่าวคือ จะต้องมีเหตุอันควรเชื่อประกอบเข้ากับพยานหลักฐานตามสมควร และภายใต้วิธีการของพระราชบัญญัติรายงานธุรกรรมทางการเงิน ค.ศ. 1988 มาตรา 32 ของเครือรัฐออสเตรเลีย ได้บัญญัติรับรองในการถ่วงดุลอำนาจ โดยมอบให้ศาลเป็นผู้มีคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามกฎหมายฟอกเงิน มิใช่การมีคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สิน โดยเจ้าพนักงานดังเช่นกฎหมายการฟอกเงินของประเทศไทย จากผลการศึกษาได้ค้นพบจึงควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 48 วรรคหนึ่ง ใน 2 กรณี ได้แก่ ก) การกำหนด ให้มีการอาศัยการพิสูจน์ตามสมควรที่จะต้องมีพยานหลักฐานมาสนับสนุนในการมีคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สิน และ ข) การกำหนดให้เกิดการถ่วงดุลของผู้ใช้อำนาจ โดยให้ศาลเป็นผู้ใช้ดุลพินิจดังกล่าวแทนที่คณะกรรมการธุรกรรม | en_US |
dc.description.sponsorship | คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี | en_US |
dc.subject | การฟอกเงิน | en_US |
dc.subject | คำสั่งยึดอายัดทรัพย์สิน | en_US |
dc.subject | หลักสิทธิมนุษยชน | en_US |
dc.title | ปัญหาทางกฎหมายในการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน กรณีศึกษาเหตุอันควรเชื่อตามกฎหมายฟอกเงิน | en_US |
dc.title.alternative | Legal Problems in Seizure or Confiscation of Property : A Case Study of Reasonable Grounds to Believe Under the Law of Money Laundering | en_US |
dc.type | Article | en_US |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Laws : Independent Study (IS) |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
is LAW67 Worapoj.pdf | บทความ, วรพจน์ | 576.07 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น